ReadyPlanet.com


10 มุมสงบของกรุงเทพฯ


ใครจะเชื่อว่า "กรุงเทพฯ" เมืองแห่งความอึกทึกโกลาหลจะมีสถานที่ซึ่งให้ความสงบ ช่วยให้เราได้ผ่อนคลาย และพักจากความวุ่นวายสับสน ชมรมหรี่เสียงกรุงเทพฯ (www.quietbangkok.org) ได้สำรวจสถานที่ต่างๆ ในกรุงและพบ 10 มุมสงบ ซึ่งพร้อมเป็นที่พักกายและใจให้ผู้ที่แวะเวียนไป แม้เพียงชั่วครั้งคราวเพื่อเติมพลังให้กับชีวิตของเรา


1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งที่อยู่ใจกลางเมือง และติดกับสยามสแควร์ที่แสนจะหนวกหู แต่พื้นที่แห่งนี้มีมุมสงบมากมายให้นั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้าน หรือพาลูกหลานไปวิ่งเล่น โดยไม่ต้องเป็นศิษย์เก่า ช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือในเดือนมีนาคมซึ่งดอกไม้แข่งกันบาน ไม่ว่าจะเป็นชงโค ตะแบก ชมพูพันธุ์ทิพย์ นนทรี หรือแคแสด คลอด้วยเสียงนกนานาชนิดที่อาศัยโอเอซิสกลางกรุงแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัย

ที่อยู่ ระหว่างถนนอังรีดูนังต์กับพญาไท (ประตูเปิดทุกวัน เวลาประมาณ 06.00-20.00 น. โดยช่วงสุดสัปดาห์จะเปิดบางประตู)


2.ห้องสมุดและร้านกาแฟนีลสัน เฮส์
ห้องสมุดแห่งนี้ทำหน้าที่ให้ความรู้ และความสงบกับคนกรุงเทพฯมาตั้งแต่ พ.ศ.2412 ปัจจุบันห้องสมุดยังอยู่ในสภาพดีเยี่ยมด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคที่สวยงาม คุณจะเลือกอ่านหนังสือเงียบๆ ในห้องสมุด หรือจะดื่มกาแฟและทานของว่างในร้านกาแฟซึ่งมีพื้นที่แสดงศิลปะ และยังจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศร่มรื่นของสวนด้านนอกอีกด้วย นอกจากนี้ ห้องสมุดยังจัดกิจกรรมเพื่อการอ่าน เช่น การอ่านนิทานเด็ก การขายหนังสือลดราคา และละครสำหรับเด็ก

ที่อยู่ ถนนสุรวงศ์ (ถ้าเดินจากบีทีเอสช่องนนทรีหรือสุรศักดิ์ใช้เวลา 20 นาที) เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ 09.30-17.00 น. โทร.0-2233-1731


3.บุ๊คเลานจ์แอทอมรินทร์
ที่ชมรมเพิ่งค้นพบเร็วๆ นี้คือ บุ๊คเลานจ์แอทอมรินทร์ ที่ชั้น 4 อมรินทร์พลาซ่า ซึ่งเป็นเอาท์เลตหนังสือลดราคาของเอเซียบุ๊คส์ มีหนังสือนับแสนเล่ม และมีมุมกาแฟน่ารักของร้านบลูคัพ สามารถมองผ่านกระจกบานใหญ่ๆ ออกไปเห็นวิวด้านนอก ที่น่าสังเกตคือเมื่อร้านหนังสือและร้านกาแฟออกแบบบรรยากาศให้เงียบสงบ เหมาะกับการอ่านหนังสือ และพักเหนื่อยจากการช็อปปิ้ง ระหว่างที่อยู่ที่นี่คุณจะหยิบหนังสือมาเลือกดู พลางจิบชาสมุนไพรในกาน้ำชาและแก้วใส แล้วนั่งอ้อยอิ่งไปเรื่อยๆ ก็คงไม่มีใครว่าอะไร
 
ที่อยู่ ชั้น 4 อมรินทร์พลาซ่า (ใกล้สี่แยกราชประสงค์) โทร.0-2256-9111


4.ร้านหนังสือศึกษิตสยามและวัดราชบพิธฯ
นี่คือร้านหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ สิ่งที่ถูกใจมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือของสำนักพิมพ์สวนเงิน มีมาที่ชวนให้คิดพิจารณาชีวิต สังคมและความเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง มุมผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ และผลิตภัณฑ์ที่เดินทางโดยตรงมาจากชุมชนต่างๆ และมุมสำหรับนั่งจิบชา หรือชิมโยเกิร์ตผลไม้รสต่างๆ ที่สำคัญคือที่นี่จะเปิดเพลงบรรเลงจากอินเดีย ภูฏาน และทิเบต ในระดับความดังที่เหมาะกับการเลือกซื้อหนังสือหรือซีดี ใช้เวลาที่นี่เสร็จแล้วจะข้ามถนนไปชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามและความเงียบสงบของวัดราชบพิธฯหรือแวะไปที่ตลาดถนนราชบพิธใกล้ๆ ก็ยังได้

ที่อยู่ 113-115 ถนนเฟื่องนคร (ตรงข้ามวัดราชบพิธฯ) โทร.0-2622-0955, 0-2222-5698


5.รถไฟฟ้าใต้ดิน
สำหรับคนที่พร้อมจะจอดรถยนต์ส่วนตัวไว้ที่บ้านเพื่อหนีรถติดหรือค่าน้ำมัน รถไฟฟ้าใต้ดินเป็นทางเลือกที่วิเศษ เพราะนอกจากจะสะดวกรวดเร็วแล้วบรรยากาศเงียบสงบบริเวณสถานีและภายในรถไฟยังช่วยให้ได้พักจากความวุ่นวายของท้องถนน ที่สำคัญคือไม่มีเสียงโฆษณาในโทรทัศน์ทั้งบนสถานีและในขบวนรถ

ที่อยู่ www.bangkokmetro.co.th เปิดทุกวันเวลา 06.00-24.00 น.


6.พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก
น้อยคนจะรู้ว่าในย่านเจริญกรุงยังมีบ้านไม้สักจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สามหลังในบริเวณกว้างขวาง ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ พร้อมต้อนรับคนที่ค้นหามุมสงบของกรุงเทพฯ และร่วมศึกษากรุงเทพฯในอดีตที่คนทั่วไปสามารถสัมผัสโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย บ้านเหล่านี้อยู่ในซอย 43 ถนนเจริญกรุง เป็นบ้านเกิดและที่อยู่ในปัจจุบันของอาจารย์วราพร สุรวดี ซึ่งได้ยกบ้าน ที่ดินและสมบัติที่จัดแสดงไว้ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นของย่านบางรัก และเพิ่มพื้นที่สงบร่มรื่นให้คนกรุงเทพฯ จะแวะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ หรือจะไปอ่านหนังสือเล่มโปรดใต้ร่มไม้ อาจารย์วราพรก็ยินดีต้อนรับทั้งสิ้น ถ้าไปในวันที่เธออยู่บ้าน เธอก็จะพาชมบ้านพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ที่เก็บไว้อย่างดีด้วยตนเอง

ที่อยู่ 273 ถนนเจริญกรุง 43 (ตรงข้ามไปรษณีย์กลาง) เปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น. โทร 0-2233-7027


7.ประตูสีฟ้า
ในบรรดาร้านหนังสือในกรุงเทพฯน่าจะมีอยู่ไม่กี่ร้านที่เป็นร้านอิสระ เจ้าของดูแลกิจการเอง และขายหนังสือจากหลากหลายสำนักพิมพ์ ทำให้เราได้มีโอกาสเลือกหนังสือจากสำนักพิมพ์เล็กๆ และที่ไม่ค่อยเห็นที่อื่น หนึ่งในร้านแบบนั้นคือร้านประตูสีฟ้า ซึ่งเราจะพบหนังสือดีแต่หายาก นอกจากนี้ ยังจัดร้านได้น่ารัก โล่ง สว่าง และสงบ แถมยังมีมุมกาแฟและอาหารที่กว้างขวางน่านั่ง จะนั่งจิบกาแฟคนเดียว นัดเพื่อนไปนั่งทานอาหาร หรือจะไปร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการอ่านที่เจ้าของร้านขยันจัดอย่างสม่ำเสมอก็ได้

ที่อยู่ ปากซอย 10 ถนนเอกมัย เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 11.00-23.00 น. (มีวงดนตรีบรรเลงทุกคืนวันศุกร์) โทร.0-2726-9779

  

8.ร้านพีโอนี่
สมกับเป็นร้านน้ำชาแบบจีนสมัยใหม่ ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกได้อย่างกลมกลืน ด้วยเมนูชาที่มีให้เลือกกว่า 30 ชนิด เสิร์ฟด้วยกาน้ำชาและถ้วยที่เหมาะกับที่มาของชา ในร้านมีภาพดอกโบตั๋นน่ารักประดับเป็นสัญลักษณ์อยู่ทั่วไป ภายในแบ่งออกเป็นสามส่วน คือกลุ่มที่นั่งด้านหน้า สวนเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลาง และด้านในสุดเป็นมุมแสดงศิลปะ ทุกบริเวณกว้างขวาง น่านั่ง เพียงเข้าไปในร้านก็รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาจีนสักกาหนึ่ง แล้วให้เวลาตัวเองค่อยๆ จิบชา พิจารณาทั้งกลิ่นหอมและรสชาติอ่อนละมุน เพลิดเพลินกับเสียงเพลงเบาๆ จะช่วยให้รู้สึกถึงการพักผ่อนอย่างแท้จริง

ที่อยู่ ศาลาแดงซอย 1 เปิดวันจันทร์-วันศุกร์ 07.00-20.00 น. วันเสาร์เปิดเวลา 09.00-17.00 น. โทร.0-2235-5369


9.ร้านอกาลิโก
ร้านนี้บริการชาอังกฤษ กาแฟ ขนม และแซนด์วิชประเภทต่างๆ ในบรรยากาศโคโลเนียล เพดานสูงทำให้โปร่ง โล่ง สบาย ตกแต่งด้วยสีสันสะอาดตา มีสวนด้านนอกร่มรื่นแบบอังกฤษ คุณจะเลือกนั่งด้านในหรือด้านนอกก็ได้ บรรยากาศร้านจะเชิญชวนให้คุณนั่งลงพัก ผ่อนคลายไปกับการดื่มชา พร้อมกับขนมอร่อย เหมือนได้ย้อนยุคกลับไปอยู่ในโลกแห่งอดีตที่ไม่ต้องรีบเร่ง และค่อยๆ จิบชาโดยไม่มีคนรบกวน

ที่อยู่ ต้นซอยสุขุมวิท 51 เปิดวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น. โทร.0-2662-5857


10.สวนศิลปะอมันตี
น่าดีใจมากที่กรุงเทพฯ มีสวนศิลปะที่กว้างขวาง ร่มรื่นในย่านแจ้งวัฒนะ ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับความร่มครึ้มของต้นไม่ใหญ่ สลับไปกับบ้านทรงไทย งานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์แบบเอเชียที่สวยงาม ที่อมันตียังมีกิจกรรมศิลปะและวัฒนธรรมตลอดทั้งปี หรือคุณจะแวะไปที่มุมกาแฟของอมันตี ซึ่งมีทั้งอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน บรรยากาศที่ผ่อนคลายและร่มรื่นของอมันตีจะทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่ากับการเดินทางฝ่าการจราจรและแดดร้อน เพื่อให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสความสงบที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ

ที่อยู่ 131/3 ถนนแจ้งวัฒนะ 13 หลักสี่ เปิดทุกวันเวลา 09.00-18.00 น. โทร.0-2982-8694/5

 

ผ่อนคลายตัวเองกับความบันเทิงแบบมีเสียงมากันเยอะแล้ว ลองเปลี่ยนแนวไปผ่อนคลายในมุมสงบเพื่อเติมพลังให้ตัวเองกันบ้างเถอะ

ที่มา มติชน 11 พ.ค. 52
ชมรมหรี่เสียงกรุงเทพ
http://www.quietbangkok.org/



ผู้ตั้งกระทู้ P'Tyme กระทู้ตั้งโดยเว็บมาสเตอร์ :: วันที่ลงประกาศ 2009-05-14 22:05:43 IP : 58.8.176.198


[1]

ความคิดเห็นที่ 3 (3362023)

ขอบคุณมากค่ะ :-)

ผู้แสดงความคิดเห็น Sia Kansan วันที่ตอบ 2013-08-03 18:32:45 IP : 124.122.162.3


ความคิดเห็นที่ 2 (3114058)

ผมว่า  ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน สงบนะ

 

ร่มรื่น เย็นสบายกว่า

 

น่าจะอยู่ในโพลด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร (ppaa-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-10-17 21:38:32 IP : 112.142.90.229


ความคิดเห็นที่ 1 (3000969)

ใน ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ก็สงบนะครับ ออกอารมณ์คลาสสิคอีกต่างหาก ติดแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศน่านั่งมาก ใครที่ไปบ่อยๆน่าจะเข้าใจดี เป็นอารมณ์ให้ระลึกถึงวันวาน

ผู้แสดงความคิดเห็น เอกLaw75 (sakkarinharrypotter-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-05-16 23:09:03 IP : 58.9.27.56



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.