TOPIC ACADEMY ตอบปัญหาข้อกังวล (สอบตรง มธ. และจุฬาฯ) ในการรับตรงร่วมของ ทปอ. ปี 55
เนื่องด้วยการที่ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในยุคอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เป็นประธาน ได้ประชุมหารือกันในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แล้วได้ข้อคิดเห็น (ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด) ว่าเพื่อการจัดการป้องกันการวิ่งรอบสอบตรงของเด็กในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงการที่มหาวิทยาลัยได้เด็กที่ไม่มีคุณภาพจากการสอบเข้าศึกษาในระบบ Admission รวมไปจนถึงปัญหาที่เด็กไม่ได้เรียนในคณะที่อยากเรียนอย่างแท้จริง ทำให้ตามที่ประชุมได้เสนอความเห็นให้ร่วมกัน "จัดสอบตรงร่วมกัน" ในบรรดาสมาชิก 24 มหาวิทยาลัยรัฐชั้นนำของประเทศ โดยจะจัดสอบทั้งหมด 7 รายวิชา คือ วิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยจะจัดสอบวิชาละ 2 ชั่วโมง วิชาละ 100 คะแนน ทั้งนี้หากมีการจัดสอบ จะจัดสอบขึ้นในช่วงอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนมกราคม และจะเริ่มต้นในปี 2555 (ส่งผลให้กับน้องๆ ม.5 ที่จะขึ้น ม.6 ในปีนี้) แต่ทั้งนี้ เงื่อนไขดังกล่าว จะต้องรอมติที่แท้จริงอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน 2554 นี้อีกครั้ง
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทำให้น้องๆ หลายคนเกิดความสับสนและไม่แน่ใจ ดังนั้นทางสถาบันจึงขอสรุปข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการสอบตรงของธรรมศาสตร์และจุฬาฯ ดังนี้
1. ต่อข้อกรณีการสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
= มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดรับตรงมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ดังนั้นทั้งข้อสอบและระบบการสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะสายสังคมศาสตร์ (เช่น คณะรัฐศาสตร์, นิติศาสตร์, สัคมสงเคราะห์ศาสตร์, พาณิชยศาสตร์และการบัญชี, เศรษฐศาสตร์) ซึ่งถือเป็นคณะหัวใจสำคัญของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงออกแบบมาได้อย่างเหมาะสม นั่นคือมหาวิทยาลัยสามารถที่จะวัดระดับผู้ที่จะสามารถเข้าเรียนในคณะหรือสาขาวิชานั้นๆ รวมไปจนถึงได้นักเรียนที่อยากจะเข้าศึกษาในคณะหรือสาขานั้นๆ ได้อย่างแท้จริง และด้วยการนำระบบสอบตรงมาใช้ยาวนานกว่า 10 ปี สะท้อนให้เห็นว่าระบบการรับตรงของธรรมศาสตร์นั้น "ได้ผล" ดังนั้นธรรมศาสตร์จึงไม่เห็นความจำเป็นของการรับตรงร่วมกันทั้ง 24 มหาวิทยาลัยของ ทปอ. ดังที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรณ์ ได้กล่าวไว้ว่า "มติที่ประชุมมธ.ยังไม่ชัดเจน แต่โดยสรุปมีข้อเสนอว่าอยากให้มีการสอบตรงร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพูดคุยให้ลึกถึงรายละเอียดของการสอบตรงร่วมกันก่อน หากร่วมกันในแง่ของการมีศูนย์กลางคอยมาดูแล คอยจัดวันเวลาให้ใกล้เคียงหรือตรงกัน และจำกัดจำนวนมหาวิทยาลัยที่นักศึกษาจะไปสมัคร จุดนี้ทางธรรมศาสตร์เห็นด้วย แต่ถ้าถึงขนาดต้องสอบวิชาเดียวกัน จุดนี้ยังต้องทำความเข้าใจกันให้มาก ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่าการร่วมกันนี้ จะร่วมกันขนาดไหน"
"อย่างคณะเศรษฐศาสตร์สอบโดยใช้วิชาเดียวกับคณะนิติศาสตร์ก็แย่แล้ว มันไม่มีทางจะเรียกว่าสอบตรงได้ คนจะดูปัญหาที่เกิดขึ้น ณ วันนี้ แต่ไม่ดูปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ตอนที่เรามีเอนทรานซ์ คือสอบครั้งเดียวแล้วตัดสินไปเลยว่าได้หรือตก ผลคือ 1. นักศึกษาเครียดมาก มีคนตกจำนวนมาก มีคนได้จำนวนนิดเดียว 2. คนที่ได้ส่วนใหญ่ พอเข้าไปเรียนแล้วมีการเปลี่ยนคณะเรียน เช่น เด็กอยากได้คณะวิศวะฯ แต่เผอิญไปติดนิติศาสตร์ ปีหน้าก็ลาออกไปสอบเข้าวิศวะฯใหม่ นี่คือปัญหา หลายมหาวิทยาลัยจึงเลือกวิธีสอบตรง ผลออกมาคือ 1. ได้นักศึกษาตรงตามที่มหาวิทยาลัยต้องการ นักศึกษาเหล่านั้นตั้งใจจะเรียนนิติศาสตร์ก็มาเรียนนิติศาสตร์ ตั้งใจจะเรียนทันตแพทย์ ก็ได้เรียนทันตแพทย์ การเปลี่ยนคณะแทบไม่มีเลย"
ศ.ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า กรณีที่มีการพูดถึงกันมาก คือ นักศึกษาไปวิ่งสอบตรงหลายๆที่ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง ในความเป็นจริงแล้ว การสอบทุกระบบมีปัญหาทั้งนั้น แต่เมื่อจะแก้ปัญหา ต้องแก้ปัญหาที่เกิดกับคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่แก้ปัญหาคนส่วนน้อย
"ถ้ามีคนวิ่งรอกสอบสัก 1% แต่คนที่เหลือจะต้องไปแก้ปัญหาของคน 1% ไหม หรือเราควรจะยืนหยัดอยู่บน 99% ที่เป็นคนส่วนใหญ่ ตัวเลขพวกนี้ยังไม่มี มีแต่คนพูดกันไปว่าวิ่งรอกสอบกันเยอะ แต่ไม่มีการพูดถึงจำนวนให้ชัดเจน อย่างไรก็ตามถ้ามีอะไรที่จะทำให้ระบบการสอบของประเทศดีขึ้นธรรมศาสตร์ก็ยินดี เพียงแต่ไม่อยากให้สรุปรวดเร็วนักว่าจะไปร่วมกันหมดทุกอย่าง เพราะจะเป็นการกลับมาสร้างปัญหาให้ระบบ" ศ.ดร.สมคิด กล่าว
จากข้อสรุปข้างต้น ทางสถาบันจึงมีความเห็นว่า ธรรมศาสตร์ จะใช้ระบบการสอบตรงในการสอบตรง มธ.ปี 2555 เช่นเดิม (และทำให้การเรียนการสอนใน TOPIC ACADEMY จะสามารถนำไปใช้สอบในปี 2555 ได้อย่างแน่นอน อิอิ แอบโฆษณา ^^) (อาจยกเว้นคณะสายวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่ มธ. อาจจะเข้าร่วมสอบตรงของ ทปอ. ทั้งนี้เพราะมีการแยกสอบเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ และคณิต นั่นเอง) ดังนั้นน้องๆ จึงยังไม่ต้องจกอกตกใจไปนะจ้า พี่ๆ และทีมสอนที่ TOPIC ทุกคนเป็นกำลังใจให้ และจะคอยตามข่าวให้น้องๆ ทุกคนอย่างต่อเนื่องจ้า ^_^
อ่านบทความอ้างอิงได้ที่นี่
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9540000021657 และ http://www.siam1.net/article-12144.html
ปล. ทั้งนี้ในส่วนของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี นั้นต้องสอบ SMART I อยู่แล้ว (จัดสอบหลายครั้งต่อปี และในปี 2554 ก็ได้ประกาศเวลาสอบออกมาแล้วจำนวน 10 ครั้ง) ดังนั้นอย่างไรก็ตามหากเด็กๆ อยากเข้าเรียนในคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะอันดับหนึ่งด้านการบริหารและบัญชีของประเทศ ทั้งหลักสูตรภาคไทย 4 ปี 5 ปี และ BBA (อินเตอร์) อย่างไรเสียก็ต้องสอบ SMART I อย่างแน่นอน 100% และคณะ INTER ทั้งหลาย เช่น BMIR, BE, BBA, BJM, BEC, BAS, PBIC นั้น สอบตรงแน่นอน 100% รวมจนถึงโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (SEAS) และโครงการรัสเซียศึกษา ด้วย
2. การสอบตรง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
= จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น พึ่งมีการเปิดสอบตรงในปี 2552 ดังนั้นน้องๆ ในรุ่นปีที่จะสอบ 2555 (ม.5 จะขึ้นม.6) นั้นจะเป็นรุ่นที่ 3 ในการสอบ ทั้งนี้จุฬาฯ ยังประสบกับการสละสิทธิ์ของเด็กที่สอบติดเป็นจำนวนมาก ดังนั้นระบบการสอบตรงของจุฬาเองจึงยังไม่มีเสถียรภาพ ไม่แน่นอน และต้องรอดูประกาศของทางจุฬาฯ ซึ่งมักจะประกาศฯ ออกมาในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี ดังนั้นจากการสอบถามของน้องๆ เป็นจำนวนมากในการสอบตรงจุฬาฯ ทางสถาบันจึงขอแนะนำว่า โดยปกติการสอบตรงของจุฬาฯ นั้นโดยมากจะเป็นวิชา GAT หรือ PAT อยู่แล้ว ดังนั้นการเตรียมตัว หากเตรียม GAT/PAT ไว้แต่เนิ่นๆ ก็ย่อมได้ประโยชน์อย่างแน่นอน (ทั้งนี้ น้องๆที่เรียนกับเราที่ TOPIC นี้จากปีที่ผ่านๆ มาก็ประสบผลสำเร็จได้คะแนนสูงขึ้นกันทุกคน โดยเฉพาะวิชา GAT PAT5 และ PAT1)
ทั้งนี้ ในส่วนของคณะนิเทศศาสตร์ นั้น ได้เปิดสอบตรงมานานเกือบจะ 10 ปีแล้ว (กล่าวคือเปิดสอบตรงโดยคณะจัดสอบเอง มาก่อนที่จุฬาฯจะจัดระบบสอบตรงร่วมกันทั้งมหาวิทยาลัย) อีกทั้งการสอบคณะนิเทศฯ เป็นการสอบวัดความรู้เฉพาะทางอย่างแท้จริง ซึ่งต่างจากคณะอื่นๆ ทั่วไป ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่คณะนิเทศศาสตร์ จะยังคงจัดสอบเองดังเดิม อีกทั้งทางคณะมักจะจัดสอบในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี (กรณีวิชาเฉพาะทางเช่น วิชาความถนัดทางวารสารสนเทศ หรือวิชาความรู้ทั่วไปทางสังคมศาสตร์ หรือวิชาความรู้ทั่วไปทางภาษาและวรรณคดีไทย) ดังนั้นหากน้องๆ ยังลังเลในช่วงนี้อาจจะมีเวลาในการเตรียมตัวน้อยลง เพราะจุฬาฯ จะประกาศรับสมัครสอบช่วงพฤษภาคม แล้วจัดสอบต้นเดือนกรกฎาคม ดังนั้นหากเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อถึงเวลาจุฬาฯประกาศสอบจริงก็จะได้เปรียบคนอื่นๆ หรือหากไม่มีการประกาศสอบเอง และไปสอบร่วมกับ ทปอ. น้องๆ ก็ยังเก็บเอาความรู้ ความสามารถตรงนี้ไปใช้สอบในวิชาสังคมศึกษาได้ (เพราะกว่า 50 -60% ของเนื้อหาเป็นการสรุปและวิเคราะห์ข่าว ซึ่งข้อสอบในรายวิชาสังคมศึกษาเองก็มักจะออกข่าวและเหตุการณ์ทั่วไปในสัดส่วน 40 - 50% อยู่แล้ว) หรือสามารถนำเอาไปใช้ต่อในการเรียนระดับมหาวิทยาลัยก็ได้
ส่วนคอร์ส INTER ทั้งหลาย เช่น BBA, EBA, BALAC นั้นเปิดสอบตรง 100% แน่นอน
3. การสอบตรง แพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ กสพท.
=แนวโน้มว่าจะรับในรูปแบบเดิม 99% คือสอบวิชาพื้นฐาน และวิชาเฉพาะแพทย์ (แต่ในปี 2555 กสพท. มีแนวโน้มจะใช้คะแนนวิชาพื้นฐานจากการสอบตรงกลางของ ทปอ. ที่จะจัดสอบโดน สทศ.) ดังนั้นเตรียมตัวในรูปแบบเดิม เตรียมเครื่อง ออกตัวเต็มที่ทั้งปีนี้ได้เลยจ้าา (ว้ชาเฉพาะแพทย์ สอบช่วงปลายเดือนตุลาคม)
ทั้งนี้อย่างไรก็ตาม ขอให้น้องๆ ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ได้ทาง website : www.2btopic.com และ www.facebook.com/topic.academy และ www.facebook.com/tyme.topic เพื่อประโยชน์ต่อการเรียนในอนาคตของหนูๆ ทุกคนจ้าาา ^_^
ข้อมูลโดย : สถาบันพัฒนาทักษะเพื่อการสอบตรงธรรมศาสตร์และจุฬา TOPIC ACADEMY
|